เมื่อวานนี้ที่บังกลาเทศมีการจัดการเลือกตั้งทั่วไป ผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการปรากฏว่า นายกฯ หญิง ชีค ฮาสินา คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ตามความคาดหมายของหลายฝ่าย
โดยเมื่อเวลา 8.00 นาฬิกาจนถึง 16.00 นาฬิกาของวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่นของบังกลาเทศ หน่วยการเลือกตั้งกว่า 42,000 แห่ง เปิดให้ประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเกือบ 120 ล้านคนทยอยเข้าไปลงคะแนนเสียงในการเลือกตั้งทั่วไป ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยเข้มงวดจากทหารและตำรวจมากกว่า 800,000 นาย
เศรษฐกิจบังกลาเทศส่อล่มสลาย หลังเกิดวิกฤตการเมืองภายในประเทศ
แทบละลาย! "บังกลาเทศ" เผชิญอากาศร้อนสุดในรอบ 60 ปี
ขณะที่นายกฯ หญิงชีค ฮาสินา ของบังกลาเทศได้ออกเดินทางไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งที่เขตของตัวเอง ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงธากาไปทางตอนใต้กว่า 160 กิโลเมตร ก่อนจะออกมาให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวถึงพรรคชาตินิยมบังกลาเทศ (BNP) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่คว่ำบาตรไม่ร่วมลงเลือกตั้งในครั้งนี้
ทั้งนี้นายกฯ หญิงชีค ฮาสินา เรียกพรรค BNP ว่า เป็นองค์กรก่อการร้าย และย้ำว่า ตัวเธอกำลังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้แน่ใจว่าประชาธิปไตยจะดำเนินต่อไปในบังกลาเทศ พร้อมทั้งเรียกร้องให้ชาวบังกลาเทศออกมาลงคะแนนเสียงเพื่อแสดงความศรัทธาต่อกระบวนการประชาธิปไตย
.png "“ชีค ฮาสินา” นายกฯ บังกลาเทศชนะเลือกตั้ง นั่งผู้นำต่อสมัยที่ 4")
อย่างไรก็ตามในวันเลือกตั้งทั่วไปของบังกลาเทศ มีรายงานเหตุรุนแรงเกิดขึ้นในเมืองจิตตะกรรม สื่อท้องถิ่นของบังกลาเทศรายงานว่า ที่เมืองดังกล่าวเกิดเหตุกลุ่มผู้สนับสนุนตัวแทนจากพรรคสันนิบาตอวามี ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของ นายกฯ ฮาสินา และผู้สนับสนุนของผู้สมัครอิสระ เผชิญหน้ากันจนเกิดการปะทะกันอย่างรุนแรง และจากเหตุการณ์นี้มีคนถูกยิงถึง 2 คนคำพูดจาก เว็บสล็อตเว็บตรง
ขณะที่ก่อนหน้าวันเลือกตั้งหลายพื้นที่ในบังกลาเทศเผชิญกับความโกลาหลอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดเหตุลอบวางเพลิงเผาคูหาเลือกตั้งกว่า 14 แห่ง และลอบวางเพลิงในจุดอื่น ๆ เช่น เผารถไฟ จากเหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 รายและมีผู้บาดเจ็บอีกหลายคน
ส่วนบรรยากาศของการเลือกตั้งเมื่อวานนี้ มีจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์เบาบาง หลังเปิดหีบได้ 2 ชั่วโมงกว่า มีผู้มาใช้สิทธิ์เพียงร้อยละ 3 และก่อนปิดหีบเลือกตั้ง 1 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่คณะกรรมการเลือกตั้งบังกลาเทศเปิดเผยว่า มีผู้ใช้สิทธิ์ลงคะแนนเสียงอยู่ที่ประมาณร้อยละ 27.15 อย่างไรก็ตามภายหลังมีรายงานตัวเลขอย่างเป็นทางการระบุว่า มีผู้ลงคะแนนเสียงออกมาใช้สิทธิ์ประมาณร้อยละ 40 ซึ่งก็ยังถือว่าค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิ์การเลือกครั้งครั้งล่าสุดเมื่อปี 2018 ที่มีสูงกว่าร้อยละ 80 หนึ่งในชาวบังกลาเทศที่ไม่ได้ออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งบอกว่า ที่เขาไม่ไปใช้สิทธิ์ เพราะเชื่อว่าจะมีการโกงการเลือกตั้ง และน่าจะมีคนมาแอบใช้สิทธิ์ของเขาไปแล้ว
ทั้งนี้หลังคณะกรรมการการเลือกตั้งบังกลาเทศปิดหีบ ก็ได้เริ่มนับคะแนน และผลการเลือกตั้งในเบื้องต้นพบว่า นายกฯ หญิงชีค ฮาสินา ยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำประเทศติดต่อกัน 4 สมัยเอาไว้ได้
โดยปรากฎภาพบรรยากาศการนับคะแนนการเลือกตั้งทั่วไปของบังกลาเทศ หลังหีบเลือกตั้งปิดลงเมื่อเวลา 16.00 นาฬิกาตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (8 ม.ค.) คณะกรรมการการเลือกตั้งเปิดเผยผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ โดยพบว่า พรรคสันนิบาตอวามี ของนายกฯ หญิงชีค ฮาสินา กวาดที่นั่งในรัฐสภาไปได้แล้ว 167 ที่นั่ง จากทั้งหมด 227 ที่นั่ง ส่วนที่นั่งที่เหลือยังคงอยู่ระหว่างรอการประกาศผล
ส่วนในเขตการเลือกตั้ง นายกฯ ฮาสินา ได้กวาดคะแนนเสียงในเขตการเลือกตั้งของตัวเองไป 249,962 เสียง ขณะที่คู่แข่งอันดับสองได้คะแนนเสียงไปเพียง 469 เสียงเท่านั้น ผลการเลือกตั้งในเบื้องต้นชี้ให้เห็นว่า พรรคของนายกฯ ฮาสินา ได้รับเสียงข้างมากอย่างแน่นอนในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งนี้ และนี่ทำให้เธอคว้าตำแหน่งผู้นำประเทศติดต่อกัน 4 สมัย และนับเป็นสมัยที่ 5 ของเธอ หากนับตั้งแต่ที่เธอดำรตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครั้งแรกในปี 1996
อย่างไรก็ตามการเลือกตั้งครั้งนี้ของบังกลาเทศเผชิญกับการคว่ำบาตรจากพรรค BNP ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลัก และชัยชนะของนายกฯ ฮาสินาก็ไร้เงาคู่แข่งจากพรรคฝ่ายค้าน คำถามสำคัญคือ ทำไมพรรคฝ่ายค้านถึงคว่ำบาตรการเลือกตั้งนี้
พรรค BNP ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลัก เชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งจอมปลอม และไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม หลังสมาชิกของพรรคถูกปราบปรามอย่างหนัก เจ้าหน้าที่พรรค BNP ระบุว่า ตำรวจบุกค้นบ้านของแกนนำและสมาชิกพรรคบ่อยครั้งในยามวิกาล พร้อมอ้างว่า พวกเขาจับกุมเฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุรุนแรง
อับดุล โมยีน คาน หัวหน้าพรรค BNP วัย 77 ปี อ้างว่า เวลานี้มีสมาชิกพรรค 10 ล้านคน กำลังหลบหนีการกวาดล้างของรัฐบาลบังกลาเทศ หลังจากที่สมาชิกเกือบ 25,000 คน ถูกจับกุมตัว เนื่องจากการประท้วงต่อต้านรัฐบาลในเดือนตุลาคม
ก่อนหน้านี้พรรค BNP พยายามกดดันให้นายกรัฐมนตรี ชีค ฮาสินา ลาออกจากตำแหน่ง ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปหลายต่อหลายครั้ง พร้อมขอให้หน่วยงานที่เป็นกลางเข้ามาทำหน้าที่แทนรัฐบาลและดูแลการเลือกตั้งแทน อย่างไรก็ตามนายกฯ ฮาสินาปฏิเสธข้อเรียกร้องของฝ่ายค้าน และกล่าวหาพรรค BNP ว่ายุยงการประท้วงต่อต้านรัฐบาล และเป็นตัวปัญหาที่ออกมาทำลายการเลือกตั้ง
“ชีค ฮาสินา” นายกฯ ที่ครองอำนาจกว่า 15 ปี
สำหรับนายกรัฐมนตรี ฮาสินา วัย 76 ปี เป็นบุตรสาวของชีค มูจิบู เราะห์มาน ผู้ก่อตั้งประเทศบังกลาเทศ ซึ่งถูกสังหารหลังกลุ่มทหารในกองทัพก่อรัฐประหารในปี 1975 ฮาสินา ได้ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นครั้งแรกในปี 1996 ก่อนจะหวนกลับเข้าสู่อำนาจผ่านการเลือกตั้งอีกครั้งในปี 2009 และครองอำนาจมาถึงปัจจุบัน
ทั้งนี้ตลอด 15 ปี ที่ผ่านมาที่บังกลาเทศอยู่ภายใต้การนำของนายกฯ ฮาสินา เธอได้รับการยกย่องจากการพลิกฟื้นเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมสิ่งทอของประเทศ รวมถึงได้รับเสียงชื่นชมจากนานาชาติในการให้ที่พักพิงแก่ชาวมุสลิมโรฮิงญาที่หนีการกวาดล้างจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมียนมา
แต่ในทางกลับกันก็มีเสียงข้อครหาว่า เธอได้ลงมือปราบปรามฝ่ายตรงข้ามที่ไม่เห็นด้วยอย่างโหดร้าย ความขัดแย้งทางการเมืองที่รุนแรงขึ้น ส่งผลให้เกิดความกังวลถึงผลกระทบของเศรษฐกิจในบังกลาเทศ ซึ่งก่อนหน้านี้บอบช้ำมาตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 และสงครามรัสเซีย ยูเครน
บังกลาเทศ เผชิญกับเงินทุนสำรองเงินตราต่างประเทศที่ลดลงแตะระดับต่ำสุดครั้งใหม่ และได้รับแรงกดดันจากอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น ขณะเดียวกันรายได้จากการส่งออกก็ตกต่ำที่สุดในรอบ 26 เดือน ทำให้รัฐบาลบังกลาเทศต้องเร่งขอเงินกู้ 4,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.6 แสนล้านบาท) จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือ IMF เมื่อช่วงต้นปีที่แล้ว
ขณะที่ อับดูร์ รูฟ ตาลุกดาร์ ผู้ว่าการธนาคารกลางบังกลาเทศออกมายอมรับเมื่อไม่นานมานี้ว่า เศรษฐกิจของประเทศอยู่ในจุดที่ตกต่ำที่สุด และกำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก แม้นายกฯ ฮาสินา จะได้รับเสียงชื่นชมจากผลงานในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา เช่นโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ที่ได้รับการพัฒนามากขึ้น แต่ชาวบังกลาเทศส่วนใหญ่ยังคงไม่พอใจกับการแก้ปัญหาปากท้อง
เช็กวันมงคล ฤกษ์ดี วันดี-วันกาลกิณี "เดือน มีนาคม"
เกาหลีเหนือยิงปืนใหญ่มาทางเกาหลีใต้อีกครั้ง เป็นวันที่ 3 ติดต่อกันแล้ว
ผลการสอบ TGAT/TPAT ออกแล้ว! เปิดสถิติคะแนนของเด็ก TCAS67
